วันเสาร์ที่ 27 สิงหาคม พ.ศ. 2559

ประวัติ จังหวัด บึงกาฬ


ยินดีต้อนรับสู่จังหวัดบึงกาฬ
ข้อมูลแนะนำจังหวัดบึงกาฬ
วัดภูทอก
วัดภูทอก
จังหวัดบึงกาฬ เป็นจังหวัดใหม่ที่พึ่งจัดตั้งขึ้นมา แยกจากจังหวัดหนองคาย มีพื้นที่ 4,305 ตารางกิโลเมตร ตั้งอยู่ห่างจากกรุงเทพฯ 756 กิโลเมตร ภูมิประเทศของจังหวัดค่อนข้างหลากหลาย ได้แก่ พื้นที่ราบสูง ภูเขา พื้นที่ราบลุ่มบริเวณลุ่มแม่น้ำโขง นอกจากนี้จังหวัดบึงกาฬจะกลายเป็นศูนย์กลางการปลูกยางพารา ที่มีเนื้อที่ถึง 300,000 ไร่ อาจถือเป็นพืชเศษฐกิจหลักของจังหวัด
อาณาเขต
ทิศเหนือ: ติดต่อกับ ประเทศลาวและแม่น้ำโขง
ทิศตะวันออก: ติดต่อกับ ประเทศลาวและ
ทิศใต้: ติดต่อกับ จังหวัดสกลนคร
ทิศตะวันตก: ติดต่อกับ ประเทศลาวและจังหวัดหนองคาย
ระยะทาง
ระยะทางจากจังหวัดบึงกาฬไปยังจังหวัดใกล้เคียง
จังหวัดหนองคาย113 กม.จังหวัดอุดรธานี189 กม.
จังหวัดสกลนคร133 กม.


ระยะทางจากอำเภอเมืองบึงกาฬไปยังอำเภอต่างๆ
อำเภอศรีวิไล35 กม.อำเภอโซ่พิสัย58 กม.
อำเภอบุ่งคล้า39 กม.อำเภอบึงโขงหลง73 กม.
อำเภอพรเจริญ47 กม.อำเภอเซกา88 กม.
อำเภอปากคาด50 กม.


เทศกาลและงานประเพณี
ประเพณีบุญบั้งไฟ
จัดขึ้นช่วง: เดือนพฤษภาคม
สถานที่: อำเภอเมือง
ประเพณีบุญบั้งไฟนี้เป็นประเพณีดั้งเดิมของชาว จังหวัดบึงกาฬ เชื่อว่าเป็นประเพณีขอฝน ในช่วงฤดูฝนที่กำลังมาถึง ชาวบ้านจะแต่งตัวสีสันสดใส ร้องเพลง เต้นแห่และแบกบั้งไฟ ซึ่งบางบั้งอาจยาวถึง 9 เมตร และประเพณีนี้ยังเป็นการส่งเสริมประเพณีศิลปะวัฒนธรรมของท้องถิ่นและช่วยส่งเสริมการท่องเที่ยวของจังหวัดบึงกาฬ
งานไหลเรือไฟ
จัดขึ้นช่วง: เดือนตุลาคม - พฤศจิกายน
สถานที่: อำเภอชานุมาน
เป็นพิธีกรรมอย่างหนึ่งของชาวอีสานที่มีมาแต่โบราณ นิยมทำกันในเทศกาลออกพรรษา ซึ่งทางจังหวัดหนองคายจะทำในคืนก่อนวันออกพรรษาหนึ่งคืน โดยยังคงรักษารูปแบบประเพณีเดิมอย่างเคร่งครัด โดยการสร้างเรือจะใช้วัสดุจากธรรมชาติ เช่นต้นกล้วย ไม้ไผ่ ทำเป็นแพ แล้วมัดไม้เป็นโครงรูปร่างต่างๆ หลายขนาดบางลำยาว 10 วา 12วา หรือ 15วา
งานแห่เทียนพรรษา
จัดขึ้นช่วง: เดือนตุลาคม - พฤศจิกายน
สถานที่: อำเภอชานุมาน
งานประจำปีของจังหวัดในช่วงเทศกาลเข้าพรรษา โดยหล่อเทียนพรรษาและประดับตกแต่งเทียน อย่างสวยงาม มีการจัดขบวนแห่และการแข่งขันประกวดความสวยงามของเทียนแต่ละต้น
งานแข่งเรือชิงถ้วยพระราชทาน
จัดขึ้นช่วง: เดือนกันยายน
สถานที่: อำเภอเมือง
เนื่องด้วยอำเภอบึงกาฬได้เปลี่ยนสถานณะมาเป็นจังหวัดบึงกาฬในวันที่ 3 สิงหาคม พ.ศ 2553 จึงได้จัดงานฉลองจังหวัดใหม่งานแรก ต้นเดือน 10-12 กันยายน 2553 นี้ โดยมีงานแข่งเรือชิงถ้วยพระราชทานสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารีเป็นงานเฉลิมฉลอง


 แผนที่หลัก


สถานที่ท่องเที่ยว

1. เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า (อ. บุ่งคล้า) ผืนป่าใหญ่ของ จ. บึงกาฬ และเป็นป่าอนุรักษ์ที่สวยสมบูรณ์ที่สุดอีกแห่งหนึ่งของภาคอีสาน ภายในพื้นที่มีน้ำตกสวยงามหลายแห่ง เช่น น้ำตกถ้ำฝุ่น น้ำตกเล็กๆ ที่เข้าถึงสะดวกที่สุด บริเวณน้ำตกมีเพิงถ้ำหลายแห่ง หรือน้ำตกชะแนน น้ำตกใหญ่ที่ไหลลัดเลาะมาตามลำห้วย แล้วตกมาเป็นน้ำตกสามชั้นอยู่ห่างกัน คือ ขัวพญานาค ชะแนน และบึงจระเข้ โดยมีน้ำตกชะแนนเป็นน้ำตกขนาดใหญ่สุด
2.น้ำตกเจ็ดสี (อ. บุ่งคล้า) น้ำตกที่สวยงามอีกแห่งหนึ่งในเขตรักษาพันธ์สัตว์ป่าภูวัว สายน้ำไหลตกจากหน้าผาหินทรายแล้วแผ่กว้างออกสวยงามตระการตา ด้านล่างมีแอ่งน้ำสำหรับเล่นน้ำและโขดหินให้นั่งเล่นพักผ่อนหย่อนใจ
3. น้ำตกตาดกินรี (อ. บึงโขงหลง) อยู่ในป่าภูลังกา เป็นน้ำตกใหญ่ไหลลงสู่หุบเหว น้ำตกชั้นบนไหลลดหลั่นกันไปตามลานหินกว้าง และมีแอ่งน้ำใสให้เราสามารถลงไปเล่นน้ำกันได้
4. บึงโขงหลง (อ. บึงโขงหลง) ทะเลสาบขนาดใหญ่ที่เป็นพื้นที่อนุรักษ์พันธุ์นก โดยเฉพาะนกน้ำที่ย้ายถิ่นเข้ามาในช่วงฤดูหนาว ทั้งห่านป่า นกเป็ดน้ำ นกยาง นกกระเต็น มีจุดดูนกอยู่ดอนสวรรค์ ซึ่งเป็นที่ตั้งของที่ทำการเขตห้ามล่าสัตว์ป่าบึงโขงหลง บริเวณบึงยังมีหาดคำสมบูรณ์ที่มีหาดทรายทอดยาวในช่วงฤดูหนาว เป็นแหล่งพักผ่อนและชมวิวทิวทัศน์ มองเห็นภูลังกาเป็นฉากหลัง
5. ภูทอก (อ.ศรีวิไล ) ภูเขาหินทราย ที่มีวัดเจติยาคีรีวิหาร ตั้งอยู่เชิงเขา และมีสะพานไม้สร้างวนเวียนขึ้นไปสู่ยอดเขารวม 7 ชั้น เพื่อเป็นทางเดินขึ้นไปยังกุฏิและถ้ำที่อยู่ตามหลืบผา และมองเห็นความสวยงามของภูมิประเทศเบื้องล่างได้ไกลสุดลูกหูลูกตา ถ้าในวันที่อากาศแจ่มใสอาจมองได้ไกลถึงเทือกเขาในเขตจังหวัดนครพนม
6.วัดสว่างอารมณ์ (อ. ปากคาด) ภายในวัดมีโบสถ์อยู่ยนก้อนหินใหญ่ หลืบถ้ำด้านล่างเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปไสยาสน์ปางปรินิพพาน บริเวณด้านบนก้อนหินเป็นจุดชมวิวทิวทัศน์สวยงามของแม่น้ำโขง
7.หาดทรายขาว (อ. บึงกาฬ)เป็นหาดทรายขาวริมฝั่งแม่น้ำโขงที่สวยงามระยะทางยาวประมาณ 2 กม. เมื่อยามเช้าและเย็นอากาศดีลมพัดเย็นสบาย และความสวยงามเมื่อพระอาทิตย์ลับขอบฟ้า
8.แก่งอาฮง (อ.บึงกาฬ) เป็นแก่งหินกลางลำน้ำโขง บริเวณหน้าวัดอาฮงศิลาวาส บ้านอาฮง ตำบลหอคำ ถือว่าเป็นจุดที่แม่น้ำโขงมีความลึกที่สุดไม่สามารถวัดความลึกได้ กระแสน้ำบริเวณแก่งอาฮงจะไหลเชี่ยวมากในฤดูน้ำหลากและมีกระแสน้ำไหลวนเป็น รูปกรวยขนาดใหญ่ซึ่งชาวบ้านเชื่อกันว่าเป็น "สะดือแม่น้ำโขง" แม่น้ำโขงบริเวณแก่งอาฮงมีความกว้างประมาณ300 เมตร ในฤดูน้ำลดและมีความกว้างราว 400 เมตร ในฤดูน้ำหลาก และจะสามารถมองเห็นแก่งได้ในช่วงเดือนมีนาคม - พฤษภาคมของทุกปี และกลุ่มหินที่ปรากฎบริเวณแก่งอาฮงจะมีชื่อเรียกตามลักษณะของหิน เช่น หินลิ้น นาค หินปลาเข้ ถ้ำปลาสวาย นอกจากจะเป็นแหล่งพักผ่อนและสถานที่ท่องเที่ยวองอำเภอบึงกาฬและเป็นสถานที่ เกิดปรากฏการณ์ทางธรรมชาติ คือ"บั้งไฟพญานาค" ในช่วงประเพณี ออกพรรษา จะมีนักท่องเที่ยวมาพักเที่ยวชมปรากฏการณ์ธรรมชาติ ปรากฏการณ์บั้งไฟพญานาค บริเวณบ้านอาฮงเป็นจำนวนมาก จะมีมากในวันขึ้น 15 ค่ำเดือน 11 ที่ปฎิฑินไทย กับปฏิทินประเทศ สปป.ลาวตรงกัน และชาวบ้านโดยรอบยังอาศัยทำการประมงด้วย
9. หนองกุดทิง (อ.บึงกาฬ) แหล่งท่องเที่ยวและพื้นที่ชุ่มน้ำแห่งหนองคายที่ยังความเป็นธรรมชาติไว้อย่างแท้จริง ด้วยมีพื้นที่เชื่อมต่อแม่น้ำโขง ทำให้พื้นที่แห่งนี้มีความความหลากหลายทางชีวภาพจนได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นพื้นที่ชุ่มน้ำสำคัญระดับโลก (พื้นที่แรมซาร์) แห่งที่ 11 ของประเทศไทย หนองกุดทิง มีพื้นที่ราว 22,000 ไร่ มีสัตว์น้ำอาศัยอยูมากกว่า 250 สายพันธุ์ มีปลาที่เป็นเอกลักษณ์หนึ่งเดียวในโลกถึง 20 สายพันธ์ มีนกพันธุ์ต่างๆกว่า40 ชนิด เหมาะสำหรับการมาพักผ่อน ชื่นชมธรรมชาติในวันสบายๆ
10. ตลาดสองฝั่งโขง (อ.บึงกาฬ)  เป็นตลาดริมแม่น้ำโขง ที่มีพ่อค้าแม่ค้าทั้งคนไทย และคนลาวข้ามฟากมาเปิดขายสินค้าในท้องถิ่นกันอย่างคึกคัก ทั้งอาหารสด อาหารแห้ง เสื้อผ้า ของกินพื้นถิ่น เดินเล่นชิลล์ๆ ในบรรยากาศแบบพื้นบ้าน ติดตลาดเฉพาะวันอังคารกับวันศุกร์

ร้านอาหาร ยอดนิยม ในจังหวัดบึงกาฬ


เสน่ย์ของข้าวเปียกบึงกาฬและข้าวเปียกที่อื่นๆอยู่ที่ เส้นที่ใหม่สดเสมอ นุ่มหอม เมื่อนำไปทำข้าวเปียกปรุงรสตามชอบจะได้ข้าวเปียกที่อร่อย ข้าวเปียกจะใส่เลือดหมู ลูกชิ้น หมูสับ คล้ายๆก๋วยจั๊บ น้ำซุบกระดูกที่ใส่ในข้าวเปียกมีรสชาดโดดเด่น ใส่เส้นข้าวเปียกลงไปรสจะอร่อยไปอีกแบบนึง ร้านข้าวเปียกนี้เปิดมานาน คนในตัวเมืองจังหวัดบึงกาฬผมว่าทุกคนต้องเคยคนแน่ๆ หากมาบึงกาฬร้านนี้ข้ามไม่ได้เด็ดขาด
ร้านอาหารเช้ายังไม่อีกร้านที่ผมไม่ได้ไปชิมคือร้าน "ไข่กระทะบึงกาฬ" ร้านนี้ขายเป็นชุดมีไข่กระทะ ขนมปังด้วย ขายชุดละ 50 บาท ผมเองไม่ค่อยชอบอาหารเช้าไม่ใช่แบบไทยๆ เลยไม่ได้ลองชิม แต่ดูจากคนที่เข้าไปทานร้านนี้ก็เชื่อได้ว่าอร่อยเช่นกัน
เมื่อผ่านอาหารเช้าไปแล้วร้านต่อไปคือขอแนะนำคือร้าน "บ้านรักสุขภาพ" ร้านนี้อยู่ตรงข้ามเยื้องๆกับโรงแรมสำราญมิตร เป็นร้านเล็กบริหารจัดการโดยสองสาวบึงกาฬ ไม่แน่ใจว่ามีเชื้อสายสาวปากซันด้วยไหม ร้านนี้เน้นเครื่องดื่มสุขภาพ คนบึงกาฬกำลังนิยมกันเลยครับ ร้านพึ่งเปิดไม่นานแต่ได้รับความนิยมสูง มีอะไรดีแวะไปทักทายกันได้ เจ้าของกันเองมาก ผมก็ใช้ที่นี่เป็นแหล่งของมูล ททท. ท่องเที่ยวจังหวัดบึงกาฬ ถามไปหมดทุกอย่างที่อยากรู้เลยครับ


สำหรับมื้อเที่ยงลองแวะไปกิน "ไก่ย่างวิเชียรบุรีสูตรจ่าพนม" จังหวัดบึงกาฬดูกันไหม ปกติไก่ย่างวิเชียรบุรีเนี่ย ผมก็ไม่เคยเห็นว่าสูตรไหนเสียที เคยไปกินที่วิเชียรบุรีก็มีแต่ร้านเกาแก่ไก่ย่างตาแป๊ะ แสดงว่าที่บึงกาฬต้องมีอะไรที่แตกต่างแน่ ร้านนี้มีไก่ย่าง ส้มตำ คนบึงกาฬไปกินกันแน่นตอนเที่ยงตรง
สำหรับมื้ออาหารว่าง ช่วงปั่นจักรยานเที่ยวในเมืองนั้น ไปลองกินกาแฟโบราณบึงกาฬร้าน "แม่โจ้คอฟฟี่" ร้านนี้มีกาแฟ และขนมถ้วยอร่อยๆขาย ขนมถ้วยร้านนี้อร่อยจริงๆ สำหรับผมเสน่ห์ที่แท้จริงของร้านนี้คือการได้ไปร่วมวงสนทนากับคนบึงกาฬอย่างเป็นกันเอง พักเหนื่อยจากการขี่จักยานเที่ยวบึงกาฬ ไปคุยกับชาวบ้านบึงกาฬครับ
สำหรับคนที่ชอบนั่งสบายๆ ร้านดูดีนิดนึงลองไปร้าน "มุกดาเบเกอรี่"  เขามีทั้งกาแฟ เค้ก ขนม ร้านนี้หลายๆคนคงชอบ ร้านเปิดแอร์เย็น นั่งกินกาแฟสบายๆ ร้านนี้อยู่แถวๆตลาดยามเช้า หน้าร้านมีต้นม่านบาหลียาว สวยแปลกตาน่านั่งเล่น จิบกาแฟดูชาวบึงกาฬเดินไปตลาด ร้านมุกกาเป็นอีกร้านที่คนบึงกาฬแนะนำต้องไปชิมครับ อ้อลืมบอกไปว่าไม่มีกาแฟสดนะมีแต่เนสกาแฟ


ตกกลางคืนอาหารค่ำให้ไปแถวๆ ริมแม่น้ำโขงแถวๆโรงแรมแม่น้ำ ตลอดเส้นทางมีร้านอาหารเปิดหลายร้าน หลายแนวให้เลือก สำหรับผมเลือกเนื้อย่างเกาหลี "เจนเนื้อย่างเหลี" ร้านนี้เป็นบุฟเฟต์คนบึงกาฬกินกันแน่นช่วงเย็น เนื่องจากอร่อยและถูกหัวละ 99 บาท กินอย่างไรก็คุ้ม ผมนั่งกินคนเดียวเขาคิดเพิ่มเป็นหัวละ 129 บาท กินเสร็จเดินชมวิวริมโขงปากซันกลับที่พัก สบายๆไม่ไกลกัน


แผนที่การเดินทาง